ข้าพเจ้า นางสา แก้วตรง อายุ ๗๐ ปี ป่วยหนักไปหาหมอที่โรงพยาบาลมาแล้ว
๒ โรงพยาบาล หมอก็บอกว่าฉันเป็น “โรคตับ” ตัวก็เหลือง ตาก็เหลืองฉันกินข้าวไม่
ได้อยู่ ๒ เดือนกินแต่น้ำ จนฉันว่าฉันจะตายแล้ว พวกลูกๆก็เลยพาฉันไปหาพระอาจารย์
ที่ดอยเวียงเกี๋ยงเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๒ พอฉันขึ้นไปพระอาจารย์บอกว่าฉันเป็น
โรคที่เกี่ยวกับ“อมนุษย์สิง” พระอาจารย์ให้ฉันรับ “พระไตรสรณคมน์” แล้วให้ท่อง
ธาตุกัมมัฏฐาน ๔ โดยพระอาจารย์ได้อธิบายให้ฟังว่า“อตมาได้ค้นคว้าในพระไตรปิฎก
เห็นในพระสูตรเรื่องหนึ่งที่ได้กล่าวถึงเรื่องของการรักษาโรคที่เกี่ยวกับการก่อกวนของ
อมนุษย์ ด้วยการเจริญกายาคตาสติ ว่าสามารถป้องกันการก่อกวนของอมนุษย์ได้
เพราะฉะนั้นถ้าอยากหายให้ท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ อมนุษย์จะไม่มาก่อกวนได้อีก
ถ้ามันสิงอยู่ในตัวเรามันก็ทนอยู่ไม่ได้“ฉันก็เลยตั้งใจท่องติดต่อกันสามวันสามคืน
ไม่หลับไม่นอนเลยเพราะความกลัวว่าจะไม่หาย พอถึงคืนที่สี่ประมาณตีสองฉันนั่ง
ท่องธาตุ ๔ อยู่ฉันก็มีอาการหวามๆในตัว แล้วตาก็เกิดสว่างจ้าขึ้นมาเหมือนอย่าง
กลางวันเลยนะ เห็นโครงกระดูกอยู่ตรงหน้า ฉันก็ตกใจกลัว ฉันก็ยิ่งท่องธาตุ ๔ เร็วยิ่ง
ขึ้นความกลัวก็หายไป พอตื่นเช้ามาจะพูดให้ใครฟังก็ไม่กล้า กลัวเขาไม่เชื่อ ประมาณ
สองสามวันจึงพูดให้แม่ลำที่ขึ้นมาถือศีลบนดอยฟังเขาก็บอกว่านั้นแหละคือ “ธรรมะ”
ฉันก็ยิ่งท่องธาตุ ๔ มากยิ่งขึ้นเพราะอยากรู้ธรรมะ ท่องทั้งกลางวันกลางคืน ยืน เดิน
นั่ง นอน ก็ท่องอยู่อย่างนั้นจนอาการป่วยของฉันหายดี กินข้าวได้ร่างกายกลับมาดี
เหมือนเดิม พระอาจารย์บอกว่า
“แม้จะหายดีแล้วก็ให้ท่องต่อไปอย่าหยุดท่อง”
ฉันก็ท่องอยู่เป็นประจำ... อยู่มาวันหนึ่งประมาณตีสาม ในขณะที่ฉันท่องธาตุ ๔
อยู่จิตฉันก็เกิดความสงบขึ้น พอจิตสงบลงพรึบ! ตาฉันก็สว่างจ้าขึ้นอีกเหมือนครั้งก่อน
มองไม่เห็นตัวเองเลยก็เลยสงสัยว่า เอ... ทำไมมองดูตัวเองมันไม่เห็นตัวเองเลย
ก็เอามือมาคลำที่หน้าอกดูมันก็มีอยู่เหมืนเดิมนี่ จึงนึกถึงคำของครูบาอาจารย์ที่ท่านบอก
ว่ามันไม่มีตัวตน มันเป็นอนัตตา อยู่ต่อมาฉันก็ท่องของฉันอยู่ไม่ได้ลดละ จิตฉันก็สงบ
ลงอีกพรึบ! ตาฉันก็สว่างจ้าขึ้นอีกมองเห็นตัวเจ้าของเองอีกตัวนั่งอยู่ตรงหน้า เหมือน
กันกับตัวฉันเลย ต่างกันตรงที่ร่างที่ฉันเห็นนั้นเส้นผมสีขาวเสื้อก็ขาว ร่างกายขาวไปหมด
จึงสงสัยว่าเอ... ทำไมเรามีสองตัว เราเป็นบ้าหรือเปล่าหนอ?ไปเล่าให้ท่านครูบาสินฟัง
(พระอีกรูปหนึ่งที่ปฏิบัติธรรมอยู่กับพระอาจารย์) ท่านก็บอกว่า
“แม่สาไม่ได้เป็นบ้าหรอก อาตมาก็อยากเป็นแบบแม่สาแต่มันก็ไม่เป็น”
ท่านก็บอกให้ท่องธาตุ ๔ ไปเรื่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งจวนจะออกพรรษาเหลืออีก ๗ วัน
ฉันเดินจงกรมท่องธาตุ ๔ อยู่คนเดียว เดินท่องได้ประมาณ ๓ ชั่วโมงจิตฉันก็สงบลง
อีกแต่ครั้งนี้จิตมันไปรับรู้ “ทุกข์” ต่างๆของตนเองตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ อายุได้สามขวบ
แม่ก็ตายจากไป ฉันคิดถึงแม่มาก ฉันก็ท่องธาตุ ๔ อยู่อย่างนั้น น้ำตาก็ไหลออกมา
อย่างไม่ขาดสาย เห็นความทุกข์ต่างๆนาๆประการเกิดขึ้นกับจิต จิตก็รับรู้เรื่องราวของทุกข์
ไปเรื่อยๆพร้อมกับการท่องธาตุ ๔ นี่แหละคนเราชีวิตจริงๆแล้วมีแต่ความทุกข์ แต่คนเรา
ไม่รู้สึกตัวว่าเราทั้งหลายตกอยู่ในกองทุกข์ แม้จิตฉันจะรับรู้เรื่องของทุกข์ แต่ฉันไม่มี
ความทุกข์ในขณะนั้นเลย นี่คงเป็นอานุภาพของการท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ แน่ๆ
ทุกวันนี้ฉันมีความสบายกายสบายใจขึ้นเยอะ จึงอยากให้ชาวพุทธทั้งหลายท่อง
ธาตุกัมมัฏฐาน ๔ ลองดูบ้าง นี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับฉันเอง สุขภาพร่างกายก็ดีขึ้น
โดยไม่ต้องกินยาเลย.
นางสา แก้วตรง
บ้านสารภี หมู่ ๑๘ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย
เนื่องจากคณะผู้จัดทำมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเผย
แผ่คำสอนของพระพุทธเจ้า
และเปิดเผยความจริงโดย
ไม่มีวัตถุประสงค์อื่น
สื่อจากสำนักปฏิบัติธรรม
ดอยเวียงเกี๋ยงวนาแจกฟรีไม่มีการขาย