เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ช่วงเดือนเมษายน ตอนนั้นยังไม่ได้บวช มีอยู่วันหนึ่งรู้สึกว่าตนเอง ไม่สบายร่างกายไม่ปกติ รู้สึกเวียนศีรษะหนักตัว จิตใจไม่ค่อยสบาย ก็เลยไปหาหมอที่ คลีนิคเลิงนกทา หมอตรวจดูแล้วบอกว่าเป็นเบาหวาน และมีความดันโลหิตสูงด้วย หมอก็จัดยามาให้กินก็กินยามาเรื่อยๆ ได้ยินคนที่เขาเคยเป็นเบาหวานมาก่อน เขาบอกว่า ถ้าได้เป็นเบาหวานแล้วไม่มีทางหายต้องกินยาตลอดชีวิต วันหนึ่งได้ดูรายการธรรมะของท่านจันทร์ มีคนโทรเข้าไปในรายการ ธรรมะของท่าน เขาบอกกับท่านจันทร์ว่าเขากินน้ำปัสสาวะของตัวเองแก้โรคเบาหวานได้ ปู่ก็เลยเริ่มกินน้ำปัสสาวะของตัวเองตลอดมา วันละสองถึงสามครั้งบางครั้งก็ไม่แน่นอน ไม่มีกำหนดกินควบคู่กับยาของหมดที่จัดมาให้ นึกถึงตอนไหนก็กินตอนนั้นเลยละ ไม่เว้นวันเลย อยู่ต่อมาจากเดือนเมษายนจนใกล้จะเข้าพรรษา ปู่ก็ได้บวชเป็นพระการกิน น้ำปัสสาวะก็ได้กินอยู่เรื่อยๆ จิตใจนึกอยากจะทำสมาธิ วิปัสสนาขึ้นมา ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีผู้สอน ก็เลยนึกถึงพระอาจารย์ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ (พระอจารย์ต้น) ที่อยู่ ดอยเวียงเกี๋ยงวนา จ.เชียงราย ท่านเคยสอนวิธีทำสมาธิ วิปัสสนา เมื่อตอนที่ปู่ยังไม่ได้ บวชโดยการเรียนรู้เรื่องของร่างกายก่อน ก่อนที่จะไปทำสมาธิหรือวิปัสสนา ถ้าไม่เรียนรู้ เรื่องของร่างกายแล้วไปทำสมาธิ วิปัสสนา มันจะหลงได้ง่าย ท่านก็เลยให้ท่องธาตุฯ ปู่ก็เลยจับธาตุกัมมัฏฐาน ๔ ท่องไว้เป็นหลัก แล้วท่านพระอาจารย์ก็มารู้ ภายหลังว่าการท่องธาตุฯ เป็นการเจริญกายาคตาสติ อันพระพุทธเจ้าบอกไว้ว่าสามารถ รักษาโรคได้ซึ่งท่านพระอาจารย์เองค้นพบในพระไตรปิฎก ปู่ก็เลยท่องธาตุฯไว้เป็นประจำ ทั้งกินยาหมอด้วยทั้งกินน้ำปัสสาวะด้วยก็รู้สึกว่าร่างกายมีอาการดีขึ้น พอออกพรรษาก็เลยตั้งใจขึ้นไปศึกษาธรรมะกับพระอาจารย์ ที่ดอยเวียงเกี๋ยงวนา ท่านก็สอนพระวินัยหลายๆอย่างให้ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะที่วัดที่ปู่จำพรรษาอยู่นั้นไม่มีใคร สอนพระวินัยเลย ท่านพระอาจารย์ก็บอกให้ท่องธาตุฯมากๆ แล้วให้คิดแยกแยะร่างกาย ตามส่วนแห่งธาตุทั้งสี่ที่ได้ท่องมา จากนั้นก็ให้เรียนรู้เรื่องของขันธ์ห้าต่อไป ปู่ก็ท่องไป พิจารณาไปแล้วสังเกตดูร่างกายของตัวเองว่า ร่างกายมันดีขึ้นจนผิดปรกติ หิวก็ไม่หิว เหมือนเดิม จึงหยุดกินยาที่หมอให้มา แต่ก็ยังกินน้ำปัสสาวะอยู่ตลอด วันละ ๒-๓ ครั้ง ตอนหยุดยาใหม่ๆคิดว่าโรคจะกำเริบมันก็ไม่กำเริบ โรคเบาหวานที่สังเกตได้ง่ายก็คือ ความหิว มันจะหิวอยู่บ่อยๆ กลางคืนจะหิวกระหายน้ำมาก กลางวันจะหิวอาหารบ่อย นี้คืออาการของโรคเบาหวานที่ปู่เป็น พอถึงเดือนเมษายนก็ลาพระอาจารย์ลงจากดอยกลับไปที่อีสาน จ.มุกดาหาร ปู่ก็ ไม่ได้ลดละการท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ และพิจารณาขันธ์ ๕ อยู่ตลอด ดูอาการของ โรคเบาหวานไปด้วย กินน้ำปัสสาวะไปด้วยก็รู้สึกว่าจะปรกติดีอยู่ จึงได้ไปให้หมอตรวจ ดูร่างกายอีกครั้ง พอหมอตรวจเสร็จหมอก็มองดูเครื่องแล้วมา มองดูหน้าผู้ป่วย หมอทำ เป็นตะลึงแล้วบอกว่า “ลดยาได้แล้ว” ปู่ก็เลยบอกกับหมอว่า “เลิกยานานแล้ว” หมอก็เลยบอกว่า “งั้นก็เลิกเลยนะแต่ให้ระวังอีกสักสองสามปีนะ กลัวมันจะกลับมาเป็นอีก” ถึงแม้ปู่จะหายเป็นปรกติดีแล้วแต่ก็ไม่ลดละการท่องธาตุกัมมัฏฐาน ๔ และ พิจารณาขันธ์ ๕ เพราะความเจ็บป่วยเป็นของไม่แน่นอน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ปัจจุบันนี้ ปู่จำพรรษาอยู่ที่ดอยเวียงเกี๋ยงวนาเพื่ออบรมจิตใจของตนให้พบกับความสงบอย่างถาวร (ถ้าเป็นไปได้) สิ่งที่ปู่ได้นำมาเล่าให้ฟังนี้ คิดว่าคงจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ อยู่บ้าง จึงได้เขียนออกมาเผยแผ่เพื่อประดับความรู้ของพวกเราทั้งหลาย ขออำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญที่เกิดจากการเขียนเรื่องนี้ของ ข้าพเจ้าจงเป็นของผู้เผยแผ่รายการ “ธรรมโอสถ” และเป็นของท่านผู้อ่าน. พระบุญมา มหาปุญโญ
เนื่องจากคณะผู้จัดทำมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเผย
แผ่คำสอนของพระพุทธเจ้า
และเปิดเผยความจริงโดย
ไม่มีวัตถุประสงค์อื่น
สื่อจากสำนักปฏิบัติธรรม
ดอยเวียงเกี๋ยงวนาแจกฟรีไม่มีการขาย